อ. วีระยุทธเสนอว่า สำหรับผู้ที่ไม่เข้าใจเศรษฐกิจการเมืองมาก่อน การจะทำความเข้าใจว่าระบบเศรษฐกิจเป็นแบบไหนให้ลองดูว่าในระบบเศรษฐกิจหนึ่งๆ นั้น
ระบบทุนนิยมเป็นระบบเศรษฐกิจที่บุคคลทั่วไปเป็นเจ้าของและควบคุมธุรกิจ ทรัพย์สิน และทุน นั่นคือ “วิธีการผลิต” ปริมาณสินค้าและบริการที่ผลิตขึ้นอยู่กับระบบของ “ อุปสงค์และอุปทาน ” ซึ่งส่งเสริมให้ธุรกิจผลิตสินค้าที่มีคุณภาพอย่างมีประสิทธิภาพและราคาไม่แพงที่สุด
รัฐ ทำมีหน้าที่ออกกฎหมายสนับสนุนการแข่งขันเสรี ต่อต้านการผูกขาด
รูปแบบปฏิสัมพันธ์ระหว่างหน่วยทางสังคมภายใต้ทุนนิยมแบบเน้นความร่วมมือเช่น
ผู้ที่ใช้ ระบบทุนนิยม ทุกวันนี้เราจึงเห็นการพยายามลดปัญหาดังกล่าว อย่างการเก็บภาษีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งแน่นอนว่าย่อมกระทบต่อคำสัญญาที่ทุนนิยมให้ไว้ว่าอนาคตที่ดีกว่ากำลังรอเราอยู่ (ในแง่ของตัวเงิน)
นี่คือปรากฏการณ์ใหม่ที่ทั้งภาครัฐและกลุ่มนายทุนหรือเจ้าของธุรกิจจะต้องตระหนักและต้องปรับตัว เพื่อใช้พลังและความเดือดร้อนของผู้บริโภคให้เป็นประโยชน์ต่อการลดทอนปัญหาความเหลื่อมล้ำ เป็นความท้าทายที่ไม่เคยมีมาก่อนที่สังคมต้องพยายามใช้สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นให้เป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหา ที่ผ่านมาชัดเจนว่า การดูแลผลประโยชน์ของผู้ใช้แรงงานอย่างที่ได้เกิดขึ้นไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ ขณะที่การเอื้อต่อประโยชน์ของกลุ่มเจ้าของทุน และธุรกิจภายใต้กลไกตลาดเสรีก็ทำให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำยิ่งรุนแรงขึ้น ช่องทางที่เหลืออยู่ จึงมีทางเดียว คือ กลุ่มผู้บริโภค ที่กำลังมีบทบาทมากขึ้นในสังคม ทั้งในเรื่องการเมืองและเศรษฐกิจ ผลักดันโดยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและปัญหาความเหลื่อมล้ำที่มีอยู่ ทุนนิยม เป็นความท้าทายของการหาทางออกให้กับปัญหาที่มีอยู่ในสังคมแต่เนิ่น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มีความเสี่ยงที่ปัญหาใหญ่จะเกิดขึ้นตามมา
อย่างไรก็ดี หากเราลองอัลตราซาวด์ดูกลไกเบื้องหลังการเติบโตดังกล่าว จะพบว่าทุนนิยมแบบจอมพลสฤษดิ์เป็นทุนนิยมที่มีธนาคารพาณิชย์ของเจ้าสัวเพียงไม่กี่รายเป็นหัวใจหลัก โดยมีทหารและเทคโนแครตเป็นพันธมิตรที่คอยเกื้อหนุน
พลิกลูกเต๋าแล้วเปลี่ยนคำว่า "สังคมนิยม" เป็น "ทุนนิยม" หรือในทางกลับกัน
ถอดบทเรียนการเลือก สว. ระบบเลือกคนดีที่ไม่ยึดโยงและไม่สะท้อนความหลากหลาย
พูดอีกอย่างก็คือ ทุนนิยมเอาชนะคอมมิวนิสต์ได้ ไม่ใช่เพราะบรรดาประเทศมหาอำนาจค้นพบ “สูตรสำเร็จ” หนึ่งเดียวที่เป็นอมตะนิรันดร์กาล แต่เป็นเพราะทุนนิยมสามารถแพร่พันธุ์ผลิดอกผลที่แตกต่างกันไปในแต่ละผืนดิน
นอกจากเป็นทุนนิยมที่มีธนาคารเป็นศูนย์กลางแล้ว มรดกที่จอมพลสฤษดิ์ทิ้งไว้ยังเป็นโครงสร้างรัฐราชการที่เทอะทะรวมศูนย์ และอุดมการณ์ของเทคโนแครตที่ผูกติดกับการจัดการเศรษฐกิจมหภาค อันต่างจากประเทศเอเชียตะวันออกที่ระบบราชการเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นตามเวลาและให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมและการกระจายรายได้เหนือตัวเลขมหภาคอย่างอัตราเงินเฟ้อ
รัฐบาลไทยประกาศสงครามกับบริเตนใหญ่และสหรัฐอเมริกา
เราจะเริ่มด้วยการพูดถึงข้อดีที่ระบบทุนนิยมมอบให้เรา:
จนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีการประดิษฐ์ระบบเศรษฐกิจที่สมบูรณ์แบบ อันที่จริงมันเป็นงานที่สามารถขีดฆ่าได้ว่าเป็นไปไม่ได้ มักจะมีความขัดแย้ง ผู้คนไม่เคยเห็นด้วยกับบางสิ่งบางอย่าง แต่ทำไม?